พูดได้ว่าเป็นคู่รักในตำนานของแวดวงบันเทิงเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการที่ทั้งคู่ประเกิศเปิดตัวเป็นคู่แรกๆในแวดวง กับช่วงเวลา 34 ปี ที่ทั้งสองอยู่ร่วมกันมา สำหรับ “นก สินจัย” และ “นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช” วันนี้พวกเราจะมาย้อนทางความรักของทั้งคู่ ที่ไม่ค่อยได้พูดถึงกันมากนัก

โดยข้อมูลจาก “Thairath Talk” ที่ได้สัมภาษณ์กับทั้งคู่เกี่ยวกับ “เรื่องลับความรัก 32 ปี ของ “นก สินจัย” และก็ “นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช”

ถามไว้ว่า “ความรักของพี่นกจริงๆผมไม่ค่อยเห็นพี่นกให้สัมภาษณ์เรื่องเกี่ยวกับความรัก เพราะมันเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเราไม่อยากเล่าหรอกครับ?”

“นก สินจัย” ตอบว่า “ไม่ค่อยจ้ะ เพราะเอาจริงๆมันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แต่งงานใหม่ๆหรือแม้กระทั่งเป็นแฟนพวกเรารู้สึกว่า บางมุมมันควรจะเป็นเรื่องส่วนตัวไหม

รู้เรื่องว่าความเป็นดาราหนังมันเป็นทุกอย่างของทุกคนอยู่แล้วเปิดประตูบ้านออกไปก็คือเราเป็นคนอื่นเป็นของผู้อื่น รู้เรื่องจ้ะแต่นกก็มีความรู้สึกว่า “เฮ้ย แต่เราก็คือคน” ถูกไหมค่ะ

เมื่อพวกเราเข้าบ้านพวกเราก็อยากจะมีโลกส่วนตัวของเราเรื่องราวในบ้านก็ควรจะเป้นเรื่องในบ้านหรือเปล่ามันไม่ใช่จำเป็นต้องบอกให้ฟังหมดทุกๆอย่าง โอเคถามก็ตอบหรือพูดอะไรได้ก็พูดบางอันเราก็รู้สึกว่าพวกเราต้องการเก็บไว้แบบงี้ พวกเราต้องการเป็นอย่างนี้มากกว่า”

“Thairath Talk” ถามว่ากล่าว “นิยามความรักของคนอายุ 55 ปี มันเปลี่ยนไปจากสมัยเด็กไหม?”

“นก สินจัย” พูดว่า “เปลี่ยนนะ ก็ด้วยวัย ภาระ หน้าที่ต่างๆเราโตขึ้นเราก็รู้ว่า ความรักมันก็เหมือนหน้าที่อย่างหนึ่ง แต่ว่าพอเพียงพวกเราโตขึ้นพวกเรารู้ว่าหน้าที่บางอย่างมันไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย

พวกเราโตขึ้นพวกเราก็รู้ว่าหน้าที่ตรงนี้มันถูกวางไว้ได้มันสบายๆได้มันผ่อนคลายได้ ความรักมันเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมันมีความเป็นเป็นเพื่อนกันมากยิ่งขึ้น พอทำงานด้วยกันยิ่งมาทำงาานเบื้องหลังมันราวกับยิ่งเป็นเพื่อนมีอะไรก้จำต้องคุยก็จะต้องถาม

บางเวลามันก็ทะเลาะกันนะ เป็นความเห็นมันไม่ตรงกันอยู่แล้ว เขาก็มองภาพหนึ่งเราก็มองแบบภาพหนึ่งก็แย้งกันได้ก็แย้งหากแย้งมิได้พวกเราก็ต้องฟังอะไรอย่างนี้ มันเรื่องรู้ที่จะแบบอะลุ้มอล่วยผ่อนปรนได้”

“Thairath Talk” ถามว่ากล่าว “มี เ ค ล็ ด ลั บ ในการครองรักไหมครับ?” นก สินจัย” กล่าวว่า “ไม่รู้นะนกว่ามันเสมือนที่เวลาพวกเราเรียนหนังสือ ทุกคนก็จะกล่าวว่าทฤษฎีก็อย่างหนึ่งปฎิบัติก็อย่างหนึ่ง ทุกสิ่งมันควรจะมีแนวความคิดอยู่แล้ว”

ผู้คนจำนวนมากก็จะมีขั้นตอนของมันเพียงแต่ว่าเนื้อหาแต่ละบ้านก็จะไม่เหมือนกัน สูตรของนกอาจจะใช้กับอีกคนมิได้ ราวกับคุณผิวแห้งจะไปใช้ของผิวมันก็ไม่ได้ยังไง คือนกมีความรู้สึกว่าเวลาใครมาถามมีสูตรอะไรไหมมันไม่มีอะ

เพราะว่าบางครั้งบางคราวพวกเราก็ยังหาเองเลยเราก็ยังต้องปรุงเองเลยหรือเปล่า โอเคเราพูดได้ว่าเป็นอย่างไรชีวิตพวกเราเป็นอย่างไรคุณเพียงแค่ไปเลือกเอาแล้วกันว่ามันปรับใช้กับชีวิตฉันได้ไหมอะไรแบบนี้มากกว่า”

“Thairath Talk” ถามว่ากล่าว “เวลาทะเลาะกันมี เ ค ล็ ด ลั บ สำหรับเพื่อการง้อกันยังไงบ้างมี เ ค ล็ ด ลั บ สำหรับในการผูกสัมพันธ์กันอย่างไรบ้าง?” “นก สินจัย” ตอบว่า “สบายมากไม่เคยง้อ (หัวเราะ) พี่นกชายขอคืนดีตลอด”

“Thairath Talk” ถามว่ากล่าว “อย่างไรครับผม เช่น สมมุติเวลาเราไม่ชอบใจอะไร พวกเรามีวิธีคิดยังไงที่ทำให้รักมันยังประคับประคองกันอยู่ได้ครับพี่นก?”

“นก สินจัย” ตอบว่า “เอาจริงเอาจังๆนกจำต้องบอกว่า นกโชคดีมากกว่าเพราะจริงๆนกฤทธิ์เยอะ แต่พี่นกป่าเขาจะเป็นแบบยอม เขาก็ไม่รู้เราโกรธเรื่องอะไรมาแต่ชงกาแฟให้

เป็นพี่นกชายจะเป็นคนชงกาแฟให้นกทุกเช้า สมมติช่วงไหนนกตึงๆวันนั้นก็จะพิเศษหน่อยจะมีขนมปังเพิ่มให้ แสดงว่าโอเคฉันยอมขอคืนดีทั้งๆที่ฉันก็ไม่รู้จักว่าฉันผิดอะไร หรือว่าพูดจาผิดหูขึ้นมา

พอเพียงพรุ่งนี้เขาก็หายเขาก็ลืมแล้ว บางเวลามันเป็นเรื่องที่เราควรจะโกรธ เขาก็ไม่รู้ไม่ชี้อะไรอย่างนี้ให้มันผ่านไปไม่เก็บ ที่ตรงนี้มากยิ่งกว่าที่นกว่านกโชคดีที่พี่นกชายเป็นแบบงี้

เรื่องเลยไม่ค่อยแย่ลงกว่าเดิม แค่แบบจุ๊กจิ๊กไปวันๆคือวันไหนถ้าไม่มีเรื่องทะเลาะกันเรื่องงอนๆกันก็เบื่อ น่ารำคาญไม่มีไรทำเลย (หัวเราะ)”